Sunday, November 9, 2008

New KRART lightface

Krart lightface

KRART™ THAI Family 10 weights by ekaluck peanpanawate, 

แบบตัวพิมพ์ชุดนี้เดิมมีอยู่ 8 นำ้หนัก คือ 
book, medium, bold, black และ italic ของทั้ง 4 น้ำหนัก
ขณะมองๆดู บุคลิกลักษณะของนิตยสาร Hamburger 
เลยคิดว่า น่าจะมีอีกซักนำ้หนักหนึ่งขึ้นมาน่าจะดี
จึงเป็นที่มาของ ตัวบาง (Light) อีกหนึ่งตัว พร้อมกับการ
รีโนเวทในน้ำหนักเก่าๆอีกด้วยเพื่อให้เข้ากัน
ทั้งหมดในภาพรวม และตอนนี้ ตัวเอน (italic) 
กำลังเดินทางไปเช่นกัน...

Tuesday, November 4, 2008

Krart CHANGE Hamburger

Krart on Hamburger magazine
HAMBURGER Magazine ครบรอบ 7 ปี มีการค่อยๆปรับโฉม

ให้ดูทันสมัยอยู่เสมอ และหนึ่งในนั้นคือ การเลือกใช้ฟอนต์ "คราส"

เป็นแบบตัวอักษรหลักในเล่ม

Krart Article

HAMBURGER magazine Vol.7 No.124 October 2008 DesignNow

คราส การกลืนกินของแบบตัวอักษรไทย โดย เจิมศิริ เหลืองศุภภรณ์

คลิ๊กอ่านบทความได้ที่ อนุทิน.ออค

Krart @ Hamburger Magazine

สนใจซื้อแบบตัวอักษร คราส ติดต่อได้ที่ คัดสรร ดีมาก ดีสทรีบิวชั่น 555

คนบ้าตัวอักษร

WHO magazine Vol.1 No.17 / 02.09.08 / คอลัมภ์ : Design
เรื่อง: ศรัณย์ เสมาทอง / ภาพ: ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์


"สัก 10 ปีก่อนมีคนเล่าให้ฟังว่า ที่เมืองนอก Typeface Designer เท่ห์สุด

กราฟิกเท่ห์รองลงมา โฆษณาตามมาทีหลัง เพราะมันทำงานรองรับกับ
การตลาดไง แต่บ้านเรามันกลับกันเลย ก็บ้านเรามันขับเคลื่อนด้วยเงิน"



เอก-เอกลักษณ์ เพียรพนาเวช นักออกแบบตัวอักษร (Type Designer) 
เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ไมไ่ด้มีอาการน้อยใจหรือประชดดังใจความที่เอ่ยขึ้น 
"คนส่วนใหญ่ที่ทำกราฟิกได้มักคิดว่าก็ทำฟอนต์ได้เหมือนกัน คิดว่ามัน
ไม่น่ายาก เขาก็ทำๆๆ" ซึ่งผมตอบแทนได้เลยว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น 
เพราะอย่างเอกที่ทำได้แบบนี้จัดได้ว่า "บ้า" อักษรพอดูเชียวละ 
บางชุดใช้เวลาหลายปีกว่าจะพัฒนาเสร็จ แล้วรายได้ก็อยู่ประมาณ 
1 ใน 5 ของงานกราฟิก ใครอดทนทำได้อยู่ก็น่าชื่นชมพอดู
ก่อนที่จะเป็น Typeface Designer ได้ นักออกแบบต้องเคยทำงาน 
Typography หรือการใช้ตัวอักษรให้ชำนาญเสียก่อน " เดิมต้องเป็น
กราฟิกที่สนใจ Typography ด้วย เห็นบ่อยๆใช้บ่อยๆก็จะรู้ หลังจากนั้น
ก็ต้องลองมาทำสัก 2-3 ฟอนต์ก่อน มันถึงจะเริ่มนิ่ง"แต่แค่งาน 
Typography ก็ยังยากที่จะมีคนทำได้ลงตัว " เราว่าสมัยก่อนที่ยังต้อง
เขียนตัวอักษรด้วยมือ ดูคนตั้งใจกับตัวอักษรมากกว่า เดี๋ยวนี้มีคอมพิวเตอร์ 
ขนาดการจัดคอลัมภ์ยังไม่ค่อยสนใจกันเลย คือ พิมพ์ๆๆๆแล้วก็โยนไปเลย
ปล่อยให้เครื่องมันตัดคำเอง ไม่ได้ไปดูมันเลย"

ก็ตั้งแต่เรียนกราฟิกดีไซน์มา เอกก็เริ่มเป็นคนบ้าตัวอักษรมาตั้งแต่ปี 3 
ขนาดงานวิทยานิพนธ์ยังเป็น Typeface Design เลย ถึงทุกวันนี้ก็เป็น 
อาจารย์สอนนักศึกษาถึง 2 สถาบัน " สอนอยู่ที่ ม.กรุงเทพ กับ
International Art Center ของ สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ ทั้ง 
Graphic Design, Typography และ Editorial Design ซึ่งมีตั้งแต่
ออกแบบสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ หนังสือ ไปถึงนิตยสารทั้งเล่ม ซึ่งเน้นไปที่ 
Content เป็นหลัก แต่การใช้ Typography ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก" 
ก็น่าเอาใจช่วยให้เอกและนักออกแบบคนอื่นๆพยายามทำงานออกแบบที่ดีๆ 
ออกมาบ่อยๆ อานิสงค์จะได้ตกถึงนักเรียนที่จะได้บ่มเพาะตัวเองจาก
สภาพแวดล้อมที่ให้ความสำคัญกับงานออกแบบจริงๆ



เอกฝากฝีมือไว้กับตัวอักษรดังๆหลายชุดอย่างเช่น ตัวอักษรภาษาไทยของ
ค่ายโทรศัพท์ DTAC "งานนี้ทำงานร่วมกับ คุณอนุทิน วงศ์สรรคกร ในนาม 
คัดสรร ดีมาก ซึ่งจากโจทย์ที่ได้มาคือมีตัวอังกฤษที่เป็นตัวอักษรที่ใช้ใน
อัตลักษณ์องค์กรของเค้าอยู่ก่อนแล้ว แล้วต้องทำภาษาไทยให้คู่กัน 
ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเสียทีเดียวหรอก ต้องแกะลักษณะของต้นแบบให้ออก
พอเป็นอักษรไทย จำนวนก็มากกว่า แล้วยังต้องจัดการกับระบบระยะห่าง 
วางลงในประโยคแล้วจะเป็นอย่างไร คิดหลายอย่าง แต่พอออกมาแล้ว
มีคนพูดถึงก็รู้สึกดี

ผลงานอื่นๆที่หาดูได้ง่ายหน่อยก็ป้ายชื่อของ "มิวเซียมสยาม" 
ก็ใช้อักษรชุด KaniGa Patana (คณิกาพัฒนา) ที่เขาพัฒนาจาก
งาน KaniGa (คณิกา) ของเขาเอง ที่เคยชนะประกวดตัวอักษรมาแล้ว 
และเขาได้มีโอกาสออกแบบตัวอักษรถวาย พระเจ้าหลานเธอ 
พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อทรงใช้ในงานออกแบบเสื้อผ้า 
แม้ตอนนี้ยังไม่ได้แบบที่สรุปชัดเจนแต่ก็พอลองชมได้จาก 
www.sirivannavari.com ครับ ก็นับเป็นอีกงานหนึ่งที่เขาภูมิใจ

แต่ทั้งหมดนี้จะอนุมานว่าคนไทยเริ่มเห็นความสำคัญของ 
Typeface Design บ้างแล้ว ผมก็ยังไม่กล้าพูดเลยครับ... 
ไหนๆก็ "บ้า" มาขนาดนี้ มันก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดแล้วละ


*ขอขยายความเพิ่มเติมจาก Who
Type Design - Graphic Design - Advertising ที่คุณกุ้งพาดหัวสืบเนื่องจาก
จากพูดคุยถึงภาพรวมในงาน Type design ในบ้านเรา และอาจจะไม่มี
ความหมายเลยถ้าผู้ที่พูดประโยคนั้นไม่ใช่ คุณภาณุ อิงคะวัต กูรูแห่งวงการ
โฆษณา แม้ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ในใจหลายๆคน คำว่า เท่ห์ จึงไม่ใช่แค่รูปภายนอก 
แต่คือความอิสระในการสร้างสรรค์


"บ้า" โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่า คนเราควรทำเต็มที่ในหน้าที่ที่ควรจะทำ
การเป็นคนรู้เส้นทางตรอกซอกซอย ถ้าคุณเป็นคนขับแท็กซี่ การเป็นคน
คิดเลขเร็วและในใจด้วย ถ้าคุณเป็นพนักงานแบงค์ การเป็นคนทนไม่ได้
ที่เห็นอ่างเปียก ถ้าคุณเป็นพนักงานทำความสะอาดในห้องน้ำที่ฮิลตัน 
สิ่งเหล่านี้ ควรจะเป็นเรื่องปกติมากกว่าหรือเปล่า :) ฉะนั้นเราควรจะ
ทำเรื่องปกติของเราให้คนอื่นมองว่ามันบ้าหว่ะ กันดีมั๊ย ^,^

Thursday, October 30, 2008

Design Police

ได้รับอีเมลล์จากคุณอุ้ม ปิติพงษ์ ภูมิจิตร Art4d มาสักพักหนึ่งแล้ว
พึ่งจะมีโอกาสได้มาเขียน




"ILLEGIBLE" "Consult a typographer"
"Warning: skewed typeface" "Alert: typo" "Style over content"
"BAD IDEA" "Display font unreadable as body copy"
"Bad logo" "THIS DOES NOT COMMUNICATE"
...etc.


ตัวอย่างคำบางส่วนที่ใช้ในการตรวจสอบ

สามารถเข้าไปที่เวปไซด์ Design Police
และสามารถโหลดไฟล์ pdf ออกมาเพื่อปริ้นท์เป็น 
สติกเกอร์ไปให้ตรวจสอบงานออกแบบที่เราต้องการได้
แต่ที่สำคัญ 
ในเวปไซต์นั้นมีรีมาร์กด้านล่างไว้อาจจะตัวเล็กซักหน่อย
แต่สำคัญมาก


Please ensure that these templates are used for legal and legitimate purposes.
You are responsible for their use. The Design Police do not condone vandalism or criminal damage.


เคยได้ยินมาว่า ในบ้านเรางานสถาปัตยกรรมจะไม่ทำ
การวิพากษ์วิจารณ์กันผ่านสื่อสาธารณะ แต่ก็ยังไม่มี
โอกาสได้คุยเรื่องนี้จริงจังกับผู้เป็นสถาปนิกว่าขอบเขตแค่ไหน
แต่ส่วนตัวก็พอจะเข้าใจและเห็นด้วยโครงสร้างวิธีคิดนั้นอยู่บ้าง
เพราะไม่ว่างานออกแบบใดๆมีย่อมมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆที่
ผู้วิพากษ์นั้นไม่ได้รับรู้ และเข้าใจถึงโปรเจคนั้นเพียงพอ
และยิ่งเฉพาะสื่อสาธารณะที่ผู้ออกแบบนั้นไม่มีโอกาสได้
ทำการอธิบายถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ อีกทั้งผลกระทบ
ต่อผู้แวดล้อมมากมายที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นการ
แสดงความคิดเห็นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ที่จะแสดงออก
ต้องคิดอย่างถ่วนถี่และดีเพียงพอแล้วต่อทุกสิ่งที่จะเกิด 
ยิ่งโดยเฉพาะบ้านเราในขณะนี้ :)


เมื่อวานเปิดเทอมวันแรก มีเด็กนศ.ผู้หญิงท่าทางเรียบร้อย
เล่าว่าปิดเทอมไป นปก.มา แล้วในกิจกรรมเล็กที่ให้เขียนภาพ
เล่าเรื่องมามีคำว่า "เบื่อม๊อบพันธมิตร"...
เขียนไปเขียนมาเกี่ยวกันมั๊ยเนี้ย :)

Monday, October 20, 2008

Designer Saturday 5


อีกหนึ่งงานใน Bangkok Design Festival 08
Designer Saturday ครั้งที่ 5 โปรโมตให้เค้าหน่อย
อย่าให้กร่อยเหมือนเสาร์ที่ผ่านมา :)

Designer Saturday คราวนี้น่าฟังมากเพราะมี
Vince Frost จาก Frost Design และ Javin Mo จาก Milkxhake
เสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2008 เวลา 13.30-17.00 น. ที่หอศิลป์กทม.

Thursday, October 16, 2008

Bangkok Design Festival 08


กลับมาอีกครั้งกับ เทศกาลออกแบบบางกอก ๒๕๕๑
14-26 ตุลาคม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว กับเทศกาลนี้
หวังว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนเดิมจะได้มีทุกๆปีไป

ปีก่อนมี กวง ธนโชติ ทรัพย์เรืองนาม กับโปรเจคแบบตัวอักษรพิมพ์ดี 
ใน DEGREESHOWS 07

ปีนี้มี หนู ผานิตา หลวงมูล กับโปรเจค Colorful Jeju-Phuket
ใน Pecha Kucha Night #5


poster designed by try 2 benice

เพชะ คุชะ ไนท์ ยังไม่เคยได้ไปฟังเลยซักครั้ง 
ครั้งนี้วันที่ 18 ตุลาคม 2008 เวลา 19.00 น
ที่ parc paragon แล้วไปขำพิธีกรกัน

Thursday, October 9, 2008

BraveFont the Movie

หนังตัวอย่าง BraveFont 55 ทำไปได้ ฮาดีเลยเอามาให้ดูกันมั้ง
ทั้งผู้กำกับ ทั้งนักแสดง ดังๆทั้งนั้น :)



“In a world torn apart by so many typefaces…”

Director: BAUER BODONI
Screenwriter: FELIX TITLING
Starring: STONE SERIF, LUCIDA BLACKLETTER, 
GILL SANS, DOM CASUAL,.... 555

ที่จริงเป็นการโปรโมต โปรแกรม Suitcase Fusion 2 
เห็นแล้วนึกถึงโปสเตอร์ Helvetica Film ปีก่อน ที่
Meet the cast เป็น A-Z ของ Experimental Jetset :)
A-Z :)

Wednesday, October 1, 2008

Vote Obama by TISA

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ดูกันให้ครบสื่อกันไปเลย 

กับความหลายหลากของการหาเสียงของประธานาธิปดี สหรัสอเมริกา

เริ่มคิดเหมือนกันแล้วใช่มั๊ย ถ้าอภิรักษ์จับมือกับโจอี้บอยจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ถ้าเป็นลีน่าจังจังจาไปจับแทน โอ้ววงั้นอย่าขอให้เกิดเลยละกัน 5 5 5
แต่ที่น่าคิดต่อและเป็นไปได้ อาจจะเป็น ชูวิทย์...เพราะเขาเห็นปัญหา :?

ทำให้มองกลับไปว่าเพราะนักออกแบบเหล่านั้น ชอบ Obama หรือว่า
Obama เข้าใจในบริบทของนักออกแบบ แล้วถ้าในฐานะนักออกแบบ
เราไม่ได้ชอบนักการเมืองคนนั้นๆเราคิดจะรับงานชิ้นนั้นอยู่หรือเปล่า :?




"Nothing can stand in the way of the power of millions of voices
calling for change."

- Barack Obama 2008 -


"Vote Obama"
Tazisso Arnold!
Directed by Kenzo Hakuta
Co-Directed by Omari Thomas & Guy Logan
TisaVision.tv
The Service Company
Music produced by Daedelus

Tuesday, September 30, 2008

DAVID CARSON change OBAMA

ไหนๆก็ให้พูดถึง Obama กันไปแล้ว 
งั้นมาต่อด้วยงานโปสเตอร์ของ Obama อีกชิ้น
จากมือนักออกแบบระดับแนวหน้า

HOPE CHANGE 08 
โปสเตอร์ที่หน้าตาแปลกแตกต่างออกไปจาก
ขนบเดิมของโปสเตอร์หาเสืยงของนักการเมือง
ที่เห็นๆกันอยู่ Change จริงๆ


Obama Posters by David Carson


ไม่ใช่จากใครที่ไหน David Carson ผู้บ้าการเล่นเซิร์ฟ และ
นักออกแบบผู้สร้างประวัติศาสตร์กราฟิกดีไซน์ของโลก

ถ้าให้พูดถึง David Carson สิ่งที่จะพูดถึงไม่ได้เด็ดขาด
นิตยสาร Ray Gun คืองานชิ้นหนึ่งของ David Carson ที่
The American Center for Design (Chicago) พูดถึงว่า 
"the most important work coming out of America"

The End of Print คือหนังสือรวมผลงานเล่มแรกของเขา
ที่ทำร่วมกับ Lewis Blackwell ซึ่งเค้าอ้างว่าเป็นหนังสือกราฟิก
ที่ขายดีที่สุด ขายไป 200,000 เล่ม ใน 5 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้น
อยู่ในมือผม และเก่ามากกก 55 

ชื่อของเขาถูกกล่าวถึงทั้งใน หนังสือประวัติศาสตร์กราฟิก
ที่นักออกแบบต้องอ่าน The History of Graphic Design 
by Philip Meggs และที่ดังพอๆกันคือ The Encylopidia 
of Surfing by Matt Warsaw. เอากับเขาสิ :)

กับหนึ่งประโยคที่ David Carson เคยพูดไว้ ซึ่งผมชอบและเชื่อ

"Trust your gut. Do what you love." 

กลับมาที่เมืองไทย หวังว่าวันหนึ่งเราคงมีโอกาสได้เห็น
งานออกแบบที่ต่างจากขนบเดิมผ่านทางป้ายหาเสียง
กับเค้าบางซักวัน ใครมีโอกาสทำ ฝากด้วยนะครับ
อยากเห็นจัง :)

OBAMA hearts

เห็นว่าน่ารักดีเลยเอามาลงให้ดูกัน Obama Button Project 
จาก Village


เมืองไทยใกล้เลือกผู้ว่า กทม. ไม่เห็นมีอะไรแบบนี้บ้างเลย
(อย่าลืมวันที่ 5 นี้ออกไปเลือกตั้งกันด้วยนะครับ)

จะเห็นที่พอนึกถึงสินค้ากับการเมืองคงจะเป็น มือตบ ของพันธมิตร
สำหรับผู้ผ่านไปชุมนุมคงเคยเห็นหรือมีติดบ้านกันอยู่บ้าง :)

Wednesday, September 10, 2008

การ คิด สังคม ต่าง เมือง

ความคิดต่างคือ สังคมมนุษย์
แต่การเคารพความคิดต่างของมนุษย์ผู้อื่นคือ ยอดมนุษย์

เป็นข้อความที่เขียนทิ้งท้ายไว้หลังชื่อใน msn มาพักใหญ่
เนื่องจากช่วงนี้มีแต่คนทักเรื่องการเมืองไทย ที่เป็นปัญหาอยู่
คิดยังไง อยู่ฝ่ายไหน ไปมายัง คนเยอะมั๊ย เจอใครบ้าง..บลา..บลา..บลา..

ส่วนตัวคงไม่ออกความเห็นกับเรื่อง การเมือง กับพื้นที่นี้
แต่แค่รู้สึกถึง ระบบความคิดของ คน เรา (ใช่ครับ คน)
ทำไมคนที่คิดไม่เหมือนเราจะต้องผิดเสมอไปหรือ
ทำอะไรดูคนๆนั้นผิดไปหมด เรามีสิทธิที่จะทำนั่นนู้นนี่
เพราะส่ิงที่เราคิดมัน ถูก เสมอ ... แปลกดี 

ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้เกิดมาวันเดียวกัน ที่เดี๋ยวกัน โตมาด้วยกัน
เล่นของเล่นเหมือนกัน กินข้าวอิ่มเท่ากัน เรียนแบบเดียวกัน
งานอดิเรกเหมือนกัน มีแฟนคนเดียวกัน  ตื่นเวลาเดียวกัน
นอนเวลาเดียวกัน ทำงานเหนื่อยเท่ากัน มีเพื่อนมากเท่ากัน
อ่านหนังสือเหมือนกัน ฟังเพลงเหมือนกัน..กัน..กัน..กัน  

คนเรานะ เรียกให้ดูดี ก็ มนุษย์เรานะมันแตกต่างกัน
การที่จะคิดต่างกันจำเป็นมั๊ยที่จะต้อง ถูก ผิด เสมอ ไป

ไม่มีคำตอบให้...เพราะเกิดเป็นคนมันต้อง คิด แม้จะต่าง ^o^

ช่วงนี้เห็นคนบ่นกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะขึ้นเวที หรือหน้ากล้อง
เลยมาบ่นๆมั้ง :) แต่ บ่น ที่นี้ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ให้ใคร
และไม่ได้ชิมไปด้วย คิดว่า คงไม่ผิดกฎหมายนะ ^..^

Sunday, August 3, 2008

KaniGa Patana @ Museum of Siam

ได้ยินมาพักนึง ว่า มิวเซียมสยาม (Museum of Siam) ได้เลือกใช้แบบตัวอักษร
คณิกา พัฒนา (KaniGa Patana) เป็นฟอนต์หลักภายในพิพิธภัณฑ์
พึ่งจะมีโอกาสได้เห็น (จากไซเบอร์สเปช) เลยเอามาลงให้ดูกันเล่นๆ
ไว้มีโอกาส จะไปเก็บภาพมาดูว่าถูกนำไปใช้ยังไงบ้าง :)

photo by Rujee-Lawan Ch. (ขอยืมรูปจาก multie.multiply.com เนื่องจากยังไม่มีโอกาสได้ผ่านไป)


KaniGa Patana font มีจำหน่ายอยู่ที่ คัดสรรดีมาก ดิสทริบิวชั่น (Cadson Demak distribution)
แอบขายของ :)

Wednesday, June 25, 2008

QashQai Car Games

ไม่ได้เกี่ยวกับออกแบบ แต่มันส์ดี (เรียกว่า บ้ามากกว่า)

การทำอะไรให้สุดๆในสิ่งที่เชื่อ 
ผลลัพท์ที่ได้จะพิสูจน์ตัวมันเอง


ที่มาและวีดีโออื่นๆถ้ายังไม่จุใจ QashQai Car Games

คำเตือน : เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อย่าทำตามเดี๋ยวจะกลายเป็นแว๊นซ์อ่านหนังสือพิมพ์

Thursday, June 12, 2008

Nothing...nothink

Saturday, May 31, 2008

The Font Game




The rather difficult Font Game by ilovetypography

ลองไปเล่นเกมส์ทายรูปแบบฟอนต์ฝรั่งกัน มีทั้งหมด 34 ข้อ
เป็นแบบมีตัวเลือกให้ เป็นชื่อฟอนต์ 4 ชื่อ ทำให้ไม่ยากเกินไปนัก 
ว่างๆก็ไปลองเล่นกันดู เล่นเสร็จแล้วก็ลงชื่อไว้ได้

(ถ้ารู้ว่ามี The Hall of Fame จะได้ตั้งใจกว่านี้ 55)

ใช้เป็นข้อสอบวิชา typography ดีมั๊ยเนี้ย :)



:: เพิ่มเติม
มีคนมาถามว่าได้คะแนนเท่าไหร่ เลยได้กลับไปดู Hall of Fame 
พึ่งเห็นว่า คะแนนเค้าจะเก็บแค่ 24 ชม. เสียดายจัง
เพราะมันเล่นรอบแรกวัดดวง (ความรู้สิ:) กันเห็นๆ
เลยลองเล่นดูอีกรอบจะได้เก็บภาพไว้ไม่ลืม 
จากรอบแรก 31/34 คะแนน เลยได้เป็นตามที่เห็น
แต่ใจจริงอยากเก็บภาพตอนคะแนนตอนเล่นครั้งแรกมากกว่า 
คะแนนอาจจะน้อยกว่าแต่ได้อารมณ์มากกว่า :)

::wednesday, June 4, 2008 :: No.14- 33/34 points

Friday, May 23, 2008

YES, design exhibition

ประชาสัมพันธ์นิทรรศการใกล้ตัว รูปแบบนิทรรศการยังไม่ทราบแน่ว่าเป็นอย่างไร
แต่คิดว่าใครได้ผ่านมาต้องได้แง่คิดอะไรบางอย่าง
เท่าที่รู้จักกับวิธีคิดและกระบวนการทำงานของนักออกแบบเจ้าของนิทรรศการ

Poster design by Practical Studio
Thai typeface : AG Book Rounded THAI / Krart by ekaluck peanpanawate 

Yes, I am not (ไม่ อาจ จะ ใช่) Design Exhibiton
by Santi Lawrachawee (พี่ติ๊ก สันติ ลอรัชวี)

at BUG-Bangkok University Gallery / City Campus
Opening : Saturday, July 5, 2008 at 6.00 pm.
Exhibition : July 5-31, 2008

Monday, May 19, 2008

One year Counter

ครบ 1 ปี ที่ทำมิเตอร์นับผู้คนที่บังเอิญผ่านเข้าออกพื้นที่ความคิดสาธารณะนี้
ทั้งที่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยจะได้เขียนอะไรซักเท่าไหร่
แม้กระทั้งเจ้าของบล๊อกเองยังเข้าน้อยครั้งเต็มที

วันนี้บังเอิญมาก เข้ามาเห็นเกิน 10000 ครั้ง (แอบเสียดายตัวเองเข้ามาเป็นคนที่ 10,008:)
ก็จะพยายามกลับมาทำให้เกิดสาระประโยชน์แบบเป็นกันเอง

เหมือนที่เคยคิดฝันอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ
ยินดีที่รู้จักกับทุกคนที่เป็นหนึ่งในหมื่นนี้ :)

Wednesday, May 7, 2008

After the Tsunami


(ติดมือมาเพราะเกี่ยวกับ มหัตภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่ต่างกันที่บท และบริบท แต่สอดคล้องที่ความรู้สึก)

กิจกรรมหนึ่งที่ทำสำเร็จ กับการเดินทางอันไร้กำหนด คือ

อ่าน "After เดอะ Quake" ของ ฮารุกิ มุราคามิ จบไป 
เหตุที่ได้อ่านเล่มนี้เพราะมันไม่ใช่ Norwegian Wood อันเลื่องลือ
(เคยมีคนบอกว่าเป็นคนชอบต่อต้าน ทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อว่าใช่นะ) 
และอีกสาเหตุที่ได้อ่านมัน เพราะThe Wind-up Bird Chronicle 
ที่ค้างอยู่หนาเกินกว่าจะพยายามพกมันมาด้วย
ถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่พกมาทำให้ภายในใจสั่นไหวได้
พอๆกันกับฝรั่งชั้นบนทำเกสท์เฮาท์สั้นไหวในคืนเดียวกัน
ใครที่คิดว่าตัวเองชอบต่อต้านก็ไม่ต้องไปหามันมาอ่านหรอก
เพราะมันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย
(หวังว่ามูราคามิที่เคารพคงอ่านภาษาไทยประโยคก่อนหน้านี้ไม่ออก 
แต่คงเข้าใจในความหมายแฝงที่แท้นะ :)


 (หนังสือชุดนี้ที่เลือกอ่านไม่ได้เคยได้ยินมาจากไหนเลย ชอบที่ปกตั้งแต่เล่ม 1 จนตัดสินใจอ่าน 
งานนี้ถือว่าเป็นผลจากการออกแบบล้วนๆ Jacket Design and Illustration by Exarchos )

ภารกิจอันหนักหน่วงต่อไปคือ เทลส์ออฟดิโอโตริ ปฐมภาค ของ ลิอัน เฮิร์น
(นามแฝงของ Gillian Rubinstein นักเขียนอังกฤษผู้หลงเสน่ห์วัฒนธรรมญี่ปุ่น)
ในภาค ลิขิตแห่งสวรรค์ (Heaven's net is wide) ซึ่งเป็นภาคก่อนที่จะเกิด
เล่ม ๑ เหยียบถิ่นพยัคฆ์ เล่ม ๒ วิหคหลงรัง เล่ม ๓ จันทร์กระจ่างฟ้า เล่ม ๔ สิ้นเสียงปักษา
จำได้ว่าล่าสุดที่อ่านแต่ละเล่มที่มีความหนากว่า 6-700 กว่าหน้า 
ทำให้ไม่ได้เกิดการขยับเขยื่อนอะไรทั้งสิ้นเป็นเวลากว่าอาทิตย์ในแต่ละเล่ม 
ใครที่เคยอ่านพ่อมดหนุ่มพอตเตอร์คงเข้าใจ แปลกดีในมุมมองของฝรั่ง
ที่มองนินจาเกิดจากความเป็นกรรมพันธุ์

Friday, May 2, 2008

Summer Again

เก็บตกภาพครึ่งเดือนที่ภูเก็ต เวลาวิ่งผ่านบางนานบางช้าสลับสับเปลี่ยน





Tuesday, April 15, 2008

go to a summer

ช่วงนี้พักสมอง ใครอยากพักสมองไปลองเล่นเกมส์ดู
ไม่รู้ว่าจะทำให้พัก หรือใช้มันหนักขึ้นเหมือนกัน :)

http://www.miniclip.com/games/bloxorz/en/

Sunday, March 30, 2008

KRIDPAGES (Latin typeface) at T26



my Kridpages at T26 April 08

product
Angular, Block, Grid, Slab serif, Square script &
Merge {a. old & innovative/ b. digital & human/ c. text type & display type}

process
เริ่มด้วยการพาดเส้นสายลงไปบนระบบตาราง ทับซ้อนเท่าที่ความจะเป็นพอจะเกิด
ค้นหาสิ่งขัดแย้งภายในหัวมาผสมกัน
a.นวัตกรรม กับ อดีต > Digital Slab Serif //
b.ระบอบ กับ ชายขอบ > รื้อร่างโครงสร้างเส้น ลอกเลียนสิ่งพบเห็นเป็นธรรมชาติ //
ระบบถูกยืดหยุ่น ละซึ่งส่ิงยึดติด //
c.ภาพรวม กับ ภาพลักษณ์ > บทจบส่งผลใช้งาน...รอดู



ช่วงนี้พูดไรไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เขียนคอนเซปท์ออกแบบฟอนต์ทีไรเป็นงี้ทุกที
แต่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ไทป์ดีไซน์เป็นงานที่มีความเป็นตัวตนสูง เขียนเองทำเองเข้าใจเอง :)

Wednesday, March 19, 2008

Lost Memory

พึ่งมีโอกาสได้ไล่ดูหนังที่เก็บไว้ตั้งนานแล้ว

Crying out love in the center of the world
เป็นหนังที่รู้สึกอย่างแรกว่าชื่อ ยาวมาก
มีหลายประเด็นมากจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แต่รู้ว่า ชอบ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความทรงจำในอดีตที่หลงลืมมันไป
คงไม่เล่าอะไรมากเผื่อใครจะไปหาดู เชื่อนะว่า ไม่เสียดายหรอก
ต่อให้ไม่ชอบ วันหนึ่งเราก็จะลืมมันไปเองแหละ
ขนาดความทรงจำดีๆบางทีเรายังลืมไปเลย


ปกเวอร์ชั่นไทยพร้อมชื่ออังกฤษที่ผิด Crying out love in the (the) center of the world
ทำไมถึงมีเดอะถึงสองครั้ง นึกคำตอบไม่ออก แต่ผมจะเก็บเดอะไว้ในใจละกัน
ใครเห็นก็ทำเป็นไม่เห็นไปละกัน :) (ทำไม footnote นี้ยาวจัง)


อีกประเด็นที่ชอบอาจจะเพราะไม่ได้มีความคาดหวังอะไร
จากปก ดีวีดี ที่เห็น พร้อมกับชื่อไทยๆว่า "พร่ำหัวใจ เพรียกหารักที่กลางโลก"
แปลซะงงเลย พอมีโอกาสได้พยายามจะทำความรู้จักกับหนังเรื่องนี้อีกซักหน่อย
จนได้เห็นคีย์วิชวลเดิมยิ่งรู้สึกว่าทำไมไม่ใช้ภาพนั้น
รู้สึกว่าชอบภาพเดิมนั้นขึ้นมาทันที (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชอบเนื้อหนังไปแล้ว
หรือว่าปกดีวีดีที่อยู่ต่อหน้า) ทำให้รู้สึกว่าที่เค้าว่ากันว่าหน้าหนังมีผล
แต่นี่อาจจะเป็นในทางกลับกันกับทฤษฎ๊ปกติ คือ ธรรมดาหน้าหนังจะหลอก
ให้เราไปดู แต่นี่หนัาหนังทำให้ไม่คาดหวัง จึงเจอเซอร์ไพรสข้างใน


original Key Visual (Japan Version)

ขายของขนาดนี้ ยังไม่คิดจะไปหาดูกันหรอครับ :)
แต่ถ้าคาดหวังมันอาจจะไม่ดีดังหวัง
แต่เชื่อเถอะว่าวันนึงคุณก็จะลืมมันไป 555 (ยังจะขายของอีก)

Friday, March 14, 2008

อีกหนึ่งวัน

นอกจากวันเกิดของไอน์สไตน์
วันที่ 14 เดือน 3 คือวัน Pi Day หรือถ้าเขียนตามแบบฝรั่งคือ 3/14 ตรงกับค่า Pi คือ 3.14

หรือถ้่าจะให้ตรงกับ Pi Day อย่างเป็นทางการ คือ วันที่ 14 เดือน 3 เวลา 1.59
เพื่อให้ตรงกับค่าของ Pi ที่ยังหาทศนิยมตำแหน่งสุดท้ายไม่ได้ (3.14159)

-----------------------------------------------------------------
ห่างหายไปนาน กับภารกิจที่ยืดเยื้อถึง 2 ปี ส่งศิลปนิพนธ์อาทิตย์หน้าแล้ว
คงจะมีเวลาได้ทำชีวิตให้ไร้สาระได้บ้าง !!

ประกาศอีกครั้ง บล๊อกนี้ยังไม่ตาย คนเขียน (พิมพ์) ก็เช่นกัน:)

Sunday, January 20, 2008

Steven Heller @ TV



Television interview about typeface design, with Steven Heller, Jonathan Hoefler, Tobias Frere-Jones

Wednesday, January 16, 2008

Why Buy ?!


เคยเป็นกันบ้างมั๊ย ที่เห็นตัวอักษร SALE แล้วร่างกายจะขยับไปเอง :)
เหมือนถูกสะกดจิต ทำไมตัวอักษรไม่กี่ตัวถึงมี "พลัง" มากมายขนาดนั้น 555

PlayGround Book Sale 50%
เหมือนเดิม หนังสือดีๆมากมายเกินกว่าที่จะคิดว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
งานนี้ ดีไม่ดีอาจจะมาที่หลัง แต่เพราะ ราคา ทำให้สมองซีกเหตุผล
ทำงาน(มาก)ขึ้น ไม่ใช่อารมณ์แน่ๆงานนี้ :)

...และแล้วก็อย่างที่เห็น ได้มา 10 เล่ม
(ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจว่าจะซื้อเลยซักเล่ม)

• AGI-New Voice
• Lella and Massimo Vignelli: Design is One
• Design of the 20th Century by Charlotte & Peter Fiell
• STAR CULTURE
• BARNBROOK BIBLE the graphic design of Jonathan Barnbrook
• STICKY GRAPHICS by Carolyn Knight & Jessica Glaser
• WHAT IS GRAPHIC DESIGN FOR? essential design handbooks by Alice Twemlow
• GRAPHIC POETRY A Wig-01 Project by Victionary
• LETTERPRESS New applications for traditional skills by David Jury
• DESIGN OF THE TIMES Using Key Movements and Styles for Comtemporary Design by Lakshmi Bhaskaran

(ที่จริง 11 เล่ม ต้องเอาไปใช้คืนห้องสมุด ม.กรุงเทพ 1 เล่ม
เนื่องจาก มีเด็กนักศึกษายืมไปแล้วสูญ "House Industries Foundry Ten year book"
จาก สามพันกว่าเหลือพันห้า จะว่า โชคดีหรือร้ายดี :?
/ นศ.คนไหนที่อ่านเจอแล้วรู้สึกว่าเผลอหยิบไป
ยังสามารถเอาไปคืนที่ห้องสมุดได้นะครับ :)

Monday, January 7, 2008

Bembo's Zoo




เนื่องจากเทอมนี้ได้เห็นงานของนักศึกษา ปี 2 วิชา ไทป์พอกราฟี (หลายๆคน)
ที่หาทางออกด้วยการพยายามวางตัวอักษรให้เป็นภาพ
เลยอยากให้ได้ดูโปรเจตน่าสนใจของ Roberto de Vicq de Cumptich
นักออกแบบชาวบราซิล ผู้อาศัยอยุ่ในนิวยอรค์ซิตี้ ผู้เป็นอาร์ตไดเรคเตอร์และไวซ์เพรสซิเดนท์ของ HarperCollins
ท่าจะให้นึกถึงคงเป็นงาน Words At Play ที่เคยทำให้กับ Adobe Systems เพื่อโชว์ศักยภาพของ Adobe Indesign
(ยังมี file pdf อยู่เลยถ้าใครสนใจ ลองเรียกมานะครับ จะพยายามขึ้นรูปให้ดู:)



จาก หนังสือ สู่ อินเตอร์แอคทีฟ
ความน่าสนใจของงานชิ้นนี้ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบ แต่เป็นนื้อหาสาระ กับวิธีการ และผลที่ได้
ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อการเรียนรู้ รูปอักษร คำศัพท์ และรูปภาพสำหรับเด็ก วัย 2-6 ขวบ
แม้ไม่ใช่งานออกแบบที่สวยสมบูรณ์แบบ แต่ก็คิดว่าเป็นงานที่น่าสนใจเข้าขั้นทีเดียวในแง่ผลลัพท์
- อักษร - เสียง - ภาพ - อินเตอร์แอคทีฟ - เด็ก - สนุกสนาน - สนใจใคร่รู้ -

Go to Zoo www.bemboszoo.com



alphabet K - Koala

"This high-concept abecedary, the picture book debut for deVicq de Cumptich.
should delight collectors of stylish picture books and aficionados of the garphic arts."
-Publishers Weekly


alphabet Q - Quail

"In this first book for children, de Cumptich.... has created an abecedary of animals made entirely from Bembo letterforms and punctualtions marks-nothing else. And you know the conceit works."
-New York Times


alphabet O - Octopus

หนังสืออีกเล่มของ Roberto Vicq De Cumptich ที่อยากได้ คือ
Men of Letters and People of Substance เคยเห็นใน used 5$ เอง :)