Friday, March 23, 2007

Sorry - Shut down day 2007



Shutdown Day

โครงการเหมือนกับโครงการอื่นๆที่เราเคยได้ยิน
งดสูบบุหรีโลก [1 วัน], ปิดไฟ [1 วัน], ไม่ขับรถ [1 วัน]
อะไรก็ตามแต่ จะทำให้โลกนี้ มีอายุที่ยาวขึ้น
ทั้งที่เวลาที่เหลือ อีก 364 วันเราเล่นกันซะเต็มที่

วันนี้เป็นวันที่ 24 วันที่ร่วมกันให้หยุดอ่านบล๊อก เช็คเมล์
และทำธุระกรรมเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เพื่อที่จะได้หยุดยาว พักผ่อน และทำอะไรอย่างอื่นกันบ้าง

แต่มีนัดส่งงาน ตอน 10 โมง ดันพลาดซะแล้ว ไหนๆ ก็ไหน
เขียนบล๊อกเผื่อคนที่พลาดหลงเข้ามาเลยละกัน จะได้เป็นเพื่อนกัน
เพราะว่าก็ยังคงต้องทำงานต่อไป สำหรับส่งวันจันทร์
เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวัน เชงเม้งเดย์ ของครอบครัวซะด้วย
ทำไมไม่นัดกันให้ตรงวันนะ

สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า ถ้าอย่างนั่นจะเอา Laptop ที่ใช้อยู่ทุกวี่วัน ไปทำอะไรดีละ
ขอนำเสนอ ทางเลือกสำหรับผุ้ติดแลปทอป จะได้ shutdown ได้อย่างสบายใจ :)

Wednesday, March 21, 2007

TV Thai ก็มีดี

นอกเรื่องออกแบบอีกแล้ววันนี้
เหตุมาจาก การได้ดูรายการที่ดูแล้วรู้สึกดีรายการหนึ่ง
จอโลก Biography เสนอ บุคคลแห่งปีของเอเชีย ตอนที่ 1
พูดถึงชาวไตหวันคนหนึ่งที่เป็นนักเพาะพันธุ์พืช
จำชื่อไม่ได้ ได้ยินว่า เชง อะไรซักอย่าง แต่เค้ามีอีกชื่อว่า
"นายแตงโม" นายเชงเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับการเกษตรกรรม
และการเพาะพันธุ์กว่าทั้งชีวิต การใช้ชีวิตกับงานเฉพาะทางที่
ตัวเองรัก ทำให้สนุกกับการทำงานนั้น ดูมีความสุขจัง
เสียดายไม่ได้ดูตั้งแต่ต้น เดี๋ยวรอให้ ทำขึ้น web
แล้วคงได้ย้อนกลับมาดูอีกที เป็นข้อดีของ internet
ที่รู้สึกว่า ใกล้ตัวขึ้นมากทุกที

ยิ่งพอตามเข้ามาดูใน hiptv ยิ่งรุ้สึกว่า รายการที่ดู มันอยู่แต่ช่องนี้
รายการอื่นๆ ของ HIPTV MCOT ก็สามารถตามดูได้เช่นกัน
พลาด the Icon ไปหลายครั้งเหมือนกัน นัดกันไม่เคยได้เจอ
ยังมี ปราชญ์เดินดิน, Planet Earth, กบนอกกะลา, คนค้นคนอีก

แต่พอจบแล้วกับเจอข่าวนายทหารภาคใต้ที่เคยช่วยเหลือนักข่าวคนหนึ่งโดนฆ่า
ภาพที่ฉายเป็นภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ คนหนึ่งคนกำลังช่วยชีวิตคนอีกคน
แต่ตอนนี้ ทหารคนนั่นไม่มีชีวิตอีกแล้ว รู้สึกแปลกอีกแล้ว

Thursday, March 15, 2007

Artistic & Technical Balance

ปกติเรื่อง เทคโนโลยี เป็นเรื่องที่ไกลตัวกับคนแบบผมพอสมควร
แต่ช่วงหลังมานี้ จะเห็นได้ว่า งานออกแบบ กับ เทคโนโลยี
เร่ิมมีส่วนที่ผสมผสานเข้าได้ด้วยกัน หรืออาจจะเรียกว่า
เป็นทางออกใหม่ๆของ กระบวนการ เพราะพื้นฐานของ
นักออกแบบคือต้องทำอะไรที่ใหม่กว่าที่มีและเป็นอยู่
ซึ่ง เทคโนโลยี สามารถตอบโจทย์นั้นได้เป็นอย่างดี
เพราะ เทคโนโลยี คือ สิ่งที่ใหม่เสมอ

หนังสือที่บังเอิญพบเห็นเลยคิดว่าน่าสนใจกับคนที่
ทำงาน design กับ innovation หรือจะใช้คำว่า modernisation ดี
จะได้ดูใหม่ และดูเป็นผลของทางออกหนึ่งของ งานยุคหลัง modernism



http://www.designinginteractions.com/

อีกเหตุบังเอิญหนึ่ง คือ บทสัมภาษณ์ใน เล่ม ที่คิดว่าน่าจะอยู่
ใน DVD ด้วยคือ บทสัมภาษณ์ของ John Maeda
(ดูได้ใน web ที่แนะนำไป)

จึงเป็นอีกเหตุผลที่นำมาเล่าถึงกัน เพราะ John Maeda
อาจารย์จาก MIT Media Lab {simplicity} และผู้ก่อตั้ง MAEDASTUDIO
คือ บุคคลหนึ่งที่ผมชอบในงาน ที่ใช้ Artistic กับ Technical
ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมยังมีงานที่ใช้ Typography อีก :)



ขนาดคนที่ไม่ค่อยสนใจเทคโนโลยีอย่างผม ยังสนุกไปกับงานของ
Prof. John Maeda คนนี้เลย

แต่เทคโนโลยีกับผม ก็ยังเป็นเรื่องไกลกันอยู่ดี

Wednesday, March 14, 2007

HBD!? Albert E.



14.03.1879 คือ วันเกิดของ ไอน์สไตน์ (Einstien)
14.03.1976 คือ 97 ปีหลังจากนั้น และบังเอิญมีคนๆหนึ่งเกิด :)
14.03.2007 คือ วันนี้ ที่แก่ขึ้นอีกปี

จากความรู้ทางฟิสิกส์อันน้อยนิด ไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจได้ว่า
พลังงาน มวล และ ความเร็วแสง จะมีสัมพันธภาพอะไร
กับชีวิตของเราได้บ้าง เลยลองคิดสนุก ว่า E=mc2 คืออะไร


บทความเพ้อ สำหรับวันหนึ่ง ที่บังเอิญผ่านมาด้วยความเร็วแสง

(สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Einstien คงต้องขอบอกว่า มิอาจไปเทียบเคียง
เพียงแค่ ถ้าเวลาไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง เวลาที่ผมกินเค้กอยู่นี้
อาจเป็นเวลาเดียวกันกับที่ Albert กำลังเล่นไวโอลินฉลองกับ Elsa
อยู่ก็เป็นได้ สุขสันต์วันเกิดครับ :)

imagination is more important than knowledge.
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้

คือประโยคที่ทุกคนเคยได้ยินพอๆกับ E=mc2
แต่มีใครรู้บ้างมั๊ยว่า ไอน์สไตน์ ไม่เคยบอกเลยว่า
ความรู้ (Knowledge) ไม่มีความสำคัญ

Saturday, March 10, 2007

Works of Jan Tschichold @ Japan mag



IDEA Magazine No.321 : Works of Jan Tschichold



นิตยสารญี่ปุ่น IDEA เล่มล่าสุด No.321
ได้ลงเกี่ยวกับงานของ Jan Tschichold 1902-74

Jan Tschichold คือ บุคคลหนึ่งในสถาบัน BAUHAUS
ที่มีผลต่องานออกแบบไทโปกราฟิคของโลก
เป็นผู้บุกเบิกงานในรูปแบบที่เรียกว่า "New Typography"
การนำตัวอักษรแบบไม่มีฐานเชิง (san serif typeface) มาใช้ กับ
หลักการวางแบบอสมมาตร (assymetric balance)
ผู้ที่เชื่อว่าการออกแบบต้องเน้นประโยชน์ใช้สอย (Functional Design)
ตัดส่ิงตกแต่งเพื่อเหลือเพียงแต่ประโยชน์ของการสื่อสารเท่านั้น
จนถูกเรียก งานออกแบบในรูปแบบใหม่นี้ว่า "Functionalism"

font ที่ Jan Tschichold ออกแบบ คือ
Transit (1931), Saskia (1931), Zeus (1931) และ Sabon™ (1967) ที่หลายคนรู้จัก

1933 เขาถูกนาซีจับ ข้อหาเป็นเผด็จการทางวัฒนธรรม
ซึ่งหลังจากปี 1940 จึงหันหลังให้กับงานรูปแบบ New Typography
มาใช้แบบดั้งเดิม (Classical) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานยุคเรเนอซองค์ (Renaissance)
หันกลับมาใช้การวางแบบสมดุลแบบสมมาตร (Symetrical)
และนำตัวอักษรแบบมีฐาน (Serif typeface) กลับมาใช้ใหม่
เพื่อนำเสนอความมีคุณค่าและสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์
ซึ่ง Sabon คือ ตัวอักษรที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นของ Jan Tschichold

(**Sabon Next คือ font ที่ Jean François Porchez
ทำให้เป็นตระกูลสำหรับ Linotype ในปี 2002**)

เนื้อหาในเล่มของ Idea mag. 321
[Contributed essays]

  • Robin Kinross, 'Designer and dogmatist'
  • Christopher Burke, 'Jan Tschichold and sanserif'
  • Martijn F. Le Coultre & Alston W. Purvis, 'Jan Tschichold: Posters of the Avantgarde'
  • Richard B. Doubleday, 'Jan Tschichold at Penguin Books: A Resurgence of Classical Book Design'
  • Jost Hochuli, 'Thoughts on the reception of Jan Tshichold's work and personality thirty years after his death'
  • Alexander L. Bieri, 'Jan Tschichold and Roche: obsessive perfection'
  • François Porchez, 'On Sabon Next Project'
  • Christopher Burke, 'Tschichold's eastward gaze'
  • Taro Yamamoto, 'Considering the Dispute between Jan Tschihold and Max Bill'
  • John D. Berry, 'Getting it right - Jan Tschichold's search for mass quality'

การให้ความสำคัญกับงานในอดิีต เพื่อที่จะหาแนวทางของงานในอนาคต
ที่เป็นตัวตนของตัวเอง ไม่ใช่เพียงแค่ลอกเลียนเพียงเปลือกคงเป็น -หน้าที่- ของนักออกแบบ


อยากให้นิตยสารไทยน่าจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Typography บ้างจัง
เผื่อคนทั่วๆไปจะได้รับรู้และมองเห็นคุณค่าของ Typography เพ่ิมบ้าง

Tuesday, March 6, 2007

Children's Word




พอดีมีงาน project เล็กๆที่ต้องการคำคมๆของคนคมๆ
เพื่อพูดถึงความสร้างสรรค์ หากเรายังไม่ลืมวิธีคิดแบบเด้กๆ
เลยเอามาลงไว้ให้ดูกัน

Good thoughts are no better than good dreams, unless they be executed!
ความคิดที่ดีไม่ได้ดีไปกว่าความฝันที่ดี นอกจากว่ามันจะได้รับการแปรเป็นการปฏิบัติ

-Ralph Waldo Emerson-

The pursuit of truth and beauty is a sphere of activity in which we are permitted to remain children all our lives.
การแสวงหาความจริงและความงามเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราสามารถเป็นเด็กได้ตลอดชีิวต

-Albert Eistein-

if you want to be creative, stay in part a child, with the creativity and invention that characterizes children before they are deformed by adult society.
ถ้าคุณอยากเป็นคนสร้างสรรค์ ก็ให้ทำตัวเป็นเหมือนเด็ก ซึ่งมีความคิดสร้างสรรค์และความริเริ่มแบบเด็กๆ ที่ยังไม่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยสังคมของผู้ใหญ่

-jean piaget-