After the Tsunami
(ติดมือมาเพราะเกี่ยวกับ มหัตภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่ต่างกันที่บท และบริบท แต่สอดคล้องที่ความรู้สึก)
กิจกรรมหนึ่งที่ทำสำเร็จ กับการเดินทางอันไร้กำหนด คือ
อ่าน "After เดอะ Quake" ของ ฮารุกิ มุราคามิ จบไป
เหตุที่ได้อ่านเล่มนี้เพราะมันไม่ใช่ Norwegian Wood อันเลื่องลือ
(เคยมีคนบอกว่าเป็นคนชอบต่อต้าน ทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อว่าใช่นะ)
และอีกสาเหตุที่ได้อ่านมัน เพราะThe Wind-up Bird Chronicle
ที่ค้างอยู่หนาเกินกว่าจะพยายามพกมันมาด้วย
ถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่พกมาทำให้ภายในใจสั่นไหวได้
ถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่พกมาทำให้ภายในใจสั่นไหวได้
พอๆกันกับฝรั่งชั้นบนทำเกสท์เฮาท์สั้นไหวในคืนเดียวกัน
ใครที่คิดว่าตัวเองชอบต่อต้านก็ไม่ต้องไปหามันมาอ่านหรอก
เพราะมันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย
(หวังว่ามูราคามิที่เคารพคงอ่านภาษาไทยประโยคก่อนหน้านี้ไม่ออก
(หวังว่ามูราคามิที่เคารพคงอ่านภาษาไทยประโยคก่อนหน้านี้ไม่ออก
แต่คงเข้าใจในความหมายแฝงที่แท้นะ :)
(หนังสือชุดนี้ที่เลือกอ่านไม่ได้เคยได้ยินมาจากไหนเลย ชอบที่ปกตั้งแต่เล่ม 1 จนตัดสินใจอ่าน
(หนังสือชุดนี้ที่เลือกอ่านไม่ได้เคยได้ยินมาจากไหนเลย ชอบที่ปกตั้งแต่เล่ม 1 จนตัดสินใจอ่าน
งานนี้ถือว่าเป็นผลจากการออกแบบล้วนๆ Jacket Design and Illustration by Exarchos )
ภารกิจอันหนักหน่วงต่อไปคือ เทลส์ออฟดิโอโตริ ปฐมภาค ของ ลิอัน เฮิร์น
(นามแฝงของ Gillian Rubinstein นักเขียนอังกฤษผู้หลงเสน่ห์วัฒนธรรมญี่ปุ่น)
ในภาค ลิขิตแห่งสวรรค์ (Heaven's net is wide) ซึ่งเป็นภาคก่อนที่จะเกิด
เล่ม ๑ เหยียบถิ่นพยัคฆ์ เล่ม ๒ วิหคหลงรัง เล่ม ๓ จันทร์กระจ่างฟ้า เล่ม ๔ สิ้นเสียงปักษา
จำได้ว่าล่าสุดที่อ่านแต่ละเล่มที่มีความหนากว่า 6-700 กว่าหน้า
ภารกิจอันหนักหน่วงต่อไปคือ เทลส์ออฟดิโอโตริ ปฐมภาค ของ ลิอัน เฮิร์น
(นามแฝงของ Gillian Rubinstein นักเขียนอังกฤษผู้หลงเสน่ห์วัฒนธรรมญี่ปุ่น)
ในภาค ลิขิตแห่งสวรรค์ (Heaven's net is wide) ซึ่งเป็นภาคก่อนที่จะเกิด
เล่ม ๑ เหยียบถิ่นพยัคฆ์ เล่ม ๒ วิหคหลงรัง เล่ม ๓ จันทร์กระจ่างฟ้า เล่ม ๔ สิ้นเสียงปักษา
จำได้ว่าล่าสุดที่อ่านแต่ละเล่มที่มีความหนากว่า 6-700 กว่าหน้า
ทำให้ไม่ได้เกิดการขยับเขยื่อนอะไรทั้งสิ้นเป็นเวลากว่าอาทิตย์ในแต่ละเล่ม
ใครที่เคยอ่านพ่อมดหนุ่มพอตเตอร์คงเข้าใจ แปลกดีในมุมมองของฝรั่ง
ที่มองนินจาเกิดจากความเป็นกรรมพันธุ์
No comments:
Post a Comment