Thursday, February 1, 2007

Helvetica Sans-serif again

Helvetica เป็น font แรกๆที่หลายคนน่าจะรู้จัก รวมทั้งผม
ผมรู้จักกับมันมากว่า 10 ปี ( ถ้าเทียบกับอายุของ helvetica เองแล้ว เออ...)
แต่ผมก็ไม่ได้ใช้งานมันมากว่า 5 ปี เท่าที่จำได้ จากกระแส Helveticamania
จากผู้ที่หลงไหลใน Swiss Style จนรู้สึกว่ามีแต่ Helvetica หรือไงกัน
(ถ้าเป็นฟอนต์ไทยคงเหมือนกับที่หลายๆคนเห็น กิติธาดา ในช่วงก่อนนี้)
แต่เวลาที่ผมต้องไปสอน แล้วเห็นนักศึกษาเลือกฟอนต์เหมือนไม่ได้เลือก
Helvetica ก็จะเป็นหนึ่งแบบตัวอักษรที่ผมจะต้องพูดถึงแทบจะหลายๆครั้ง

บทความนี้เกิดจากล่าสุด ที่ขณะกำลังตรวจศิลปนิพนธ์
โครงการออกแบบนิตยสารของนักศึกษาคนหนึ่งอยู่
แล้ว นศ.คนนั้นก็เลือกตัวอักษร Arial เป็น identity ของนิตยสาร
ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งถามถึง Helvetica ขึ้นมา
(นศ.เกิดอาการมึน จากอาการที่นิ่งไป ไม่แน่ใจว่า
ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไง หรือ ไม่รู้จัก มันเลยกันแน่
ทั้งที่เรายังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่อง สัญญะ (sign)
ความหมายแฝงที่สั่งผ่านอักขระนั้นๆ จากประสพการณ์
ของแต่ละบริบทของสังคมและบุลคลนั้นๆ )

แล้ว Arial กับ Helvetica มันต่างกันตรงไหน


Helvetica 1957 by Max Miedinger.


Arial 1982 by Robin Nicholas and Patricia Saunders.


แนะนำให้เข้าไปที่ web นี้ ก่อนที่จะอ่านต่อ // Arial or Helvetica Quiz

http://www.iliveonyourvisits.com/helvetica/#



helvetica is Red / Arial is Blue



ผมได้อ่านเจอ เรื่องความคาใจของฝรั่งคนหนึ่ง
(เกียวกับ 100 best typefaces ที่ผมได้เล่่าไปก่อนหน้านี้)
ว่า Helvetica ได้ที่ 1 แต่ Arial ทำไมไม่ติดแม้กระทั่ง 1 ใน 100
หรือเราจะต้องมาตั้งคำถามกันถึง Akzidenz Grotesk 1896 (อันดับ 7)
ที่ Helvetica ใช้คำว่า "Base on" มาและ Univers 1956 (อันดับ 10)
ที่ "influenced" มาจาก Akzidenz Grotesk กันด้วยดีมั๊ย

ผมไม่แน่ใจว่า นศ. คนนั้นหายมึนแล้วหรือยัง
แต่ เกิดคำถามขึ้นในใจว่า ความต่างของระดับรายละเอียดระดับนี้
จะมีผลกับคนทั่วไป หรืออย่างน้อยก้สำหรับนักออกแบบกราฟิกทั่วๆไป
ที่จะทำการเลือกใช้ตัวอักษรให้เหมาะสมกับงานๆหนึ่งกันบ้างหรือเปล่า
ก็เป็นคำถามที่จะต้องตั้งเพื่อที่จะต้องทดลองศึกษาหาคำตอบกันต่อไป

Helvetica vs. Arial Game (click เพื่อกระโดดเหยียบ A...)
http://www.engagestudio.com/helvetica/
ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ ที่จริงจังไปเล่นเกมกันดีกว่า
เพื่อจะได้มีมุมมองต่อตัวอักษรในแง่มุมที่สนุกกับมันกันบ้าง :)

No comments: