Saturday, May 31, 2008

The Font Game




The rather difficult Font Game by ilovetypography

ลองไปเล่นเกมส์ทายรูปแบบฟอนต์ฝรั่งกัน มีทั้งหมด 34 ข้อ
เป็นแบบมีตัวเลือกให้ เป็นชื่อฟอนต์ 4 ชื่อ ทำให้ไม่ยากเกินไปนัก 
ว่างๆก็ไปลองเล่นกันดู เล่นเสร็จแล้วก็ลงชื่อไว้ได้

(ถ้ารู้ว่ามี The Hall of Fame จะได้ตั้งใจกว่านี้ 55)

ใช้เป็นข้อสอบวิชา typography ดีมั๊ยเนี้ย :)



:: เพิ่มเติม
มีคนมาถามว่าได้คะแนนเท่าไหร่ เลยได้กลับไปดู Hall of Fame 
พึ่งเห็นว่า คะแนนเค้าจะเก็บแค่ 24 ชม. เสียดายจัง
เพราะมันเล่นรอบแรกวัดดวง (ความรู้สิ:) กันเห็นๆ
เลยลองเล่นดูอีกรอบจะได้เก็บภาพไว้ไม่ลืม 
จากรอบแรก 31/34 คะแนน เลยได้เป็นตามที่เห็น
แต่ใจจริงอยากเก็บภาพตอนคะแนนตอนเล่นครั้งแรกมากกว่า 
คะแนนอาจจะน้อยกว่าแต่ได้อารมณ์มากกว่า :)

::wednesday, June 4, 2008 :: No.14- 33/34 points

Friday, May 23, 2008

YES, design exhibition

ประชาสัมพันธ์นิทรรศการใกล้ตัว รูปแบบนิทรรศการยังไม่ทราบแน่ว่าเป็นอย่างไร
แต่คิดว่าใครได้ผ่านมาต้องได้แง่คิดอะไรบางอย่าง
เท่าที่รู้จักกับวิธีคิดและกระบวนการทำงานของนักออกแบบเจ้าของนิทรรศการ

Poster design by Practical Studio
Thai typeface : AG Book Rounded THAI / Krart by ekaluck peanpanawate 

Yes, I am not (ไม่ อาจ จะ ใช่) Design Exhibiton
by Santi Lawrachawee (พี่ติ๊ก สันติ ลอรัชวี)

at BUG-Bangkok University Gallery / City Campus
Opening : Saturday, July 5, 2008 at 6.00 pm.
Exhibition : July 5-31, 2008

Monday, May 19, 2008

One year Counter

ครบ 1 ปี ที่ทำมิเตอร์นับผู้คนที่บังเอิญผ่านเข้าออกพื้นที่ความคิดสาธารณะนี้
ทั้งที่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยจะได้เขียนอะไรซักเท่าไหร่
แม้กระทั้งเจ้าของบล๊อกเองยังเข้าน้อยครั้งเต็มที

วันนี้บังเอิญมาก เข้ามาเห็นเกิน 10000 ครั้ง (แอบเสียดายตัวเองเข้ามาเป็นคนที่ 10,008:)
ก็จะพยายามกลับมาทำให้เกิดสาระประโยชน์แบบเป็นกันเอง

เหมือนที่เคยคิดฝันอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ
ยินดีที่รู้จักกับทุกคนที่เป็นหนึ่งในหมื่นนี้ :)

Wednesday, May 7, 2008

After the Tsunami


(ติดมือมาเพราะเกี่ยวกับ มหัตภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่ต่างกันที่บท และบริบท แต่สอดคล้องที่ความรู้สึก)

กิจกรรมหนึ่งที่ทำสำเร็จ กับการเดินทางอันไร้กำหนด คือ

อ่าน "After เดอะ Quake" ของ ฮารุกิ มุราคามิ จบไป 
เหตุที่ได้อ่านเล่มนี้เพราะมันไม่ใช่ Norwegian Wood อันเลื่องลือ
(เคยมีคนบอกว่าเป็นคนชอบต่อต้าน ทุกวันนี้ก็ยังไม่เชื่อว่าใช่นะ) 
และอีกสาเหตุที่ได้อ่านมัน เพราะThe Wind-up Bird Chronicle 
ที่ค้างอยู่หนาเกินกว่าจะพยายามพกมันมาด้วย
ถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่พกมาทำให้ภายในใจสั่นไหวได้
พอๆกันกับฝรั่งชั้นบนทำเกสท์เฮาท์สั้นไหวในคืนเดียวกัน
ใครที่คิดว่าตัวเองชอบต่อต้านก็ไม่ต้องไปหามันมาอ่านหรอก
เพราะมันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย
(หวังว่ามูราคามิที่เคารพคงอ่านภาษาไทยประโยคก่อนหน้านี้ไม่ออก 
แต่คงเข้าใจในความหมายแฝงที่แท้นะ :)


 (หนังสือชุดนี้ที่เลือกอ่านไม่ได้เคยได้ยินมาจากไหนเลย ชอบที่ปกตั้งแต่เล่ม 1 จนตัดสินใจอ่าน 
งานนี้ถือว่าเป็นผลจากการออกแบบล้วนๆ Jacket Design and Illustration by Exarchos )

ภารกิจอันหนักหน่วงต่อไปคือ เทลส์ออฟดิโอโตริ ปฐมภาค ของ ลิอัน เฮิร์น
(นามแฝงของ Gillian Rubinstein นักเขียนอังกฤษผู้หลงเสน่ห์วัฒนธรรมญี่ปุ่น)
ในภาค ลิขิตแห่งสวรรค์ (Heaven's net is wide) ซึ่งเป็นภาคก่อนที่จะเกิด
เล่ม ๑ เหยียบถิ่นพยัคฆ์ เล่ม ๒ วิหคหลงรัง เล่ม ๓ จันทร์กระจ่างฟ้า เล่ม ๔ สิ้นเสียงปักษา
จำได้ว่าล่าสุดที่อ่านแต่ละเล่มที่มีความหนากว่า 6-700 กว่าหน้า 
ทำให้ไม่ได้เกิดการขยับเขยื่อนอะไรทั้งสิ้นเป็นเวลากว่าอาทิตย์ในแต่ละเล่ม 
ใครที่เคยอ่านพ่อมดหนุ่มพอตเตอร์คงเข้าใจ แปลกดีในมุมมองของฝรั่ง
ที่มองนินจาเกิดจากความเป็นกรรมพันธุ์

Friday, May 2, 2008

Summer Again

เก็บตกภาพครึ่งเดือนที่ภูเก็ต เวลาวิ่งผ่านบางนานบางช้าสลับสับเปลี่ยน